เกม triple A คืออะไรกันแน่
วันนี้เราก็จะมาไขข้อข้องใจกันว่า เกม triple A คืออะไรกันแน่ ชาวเกมเมอร์ทุกคน คงคุ้นเคยกับเกม ทริปเปิ้ลเอ กันอยู่แล้ว หรือมีใคร เรียกมันว่าเอเอเอ ถ้าตามที่หลายคน เข้าใจคง ประมาณว่า มันคือเกมฟอร์มยักษ์ พัฒนาโดย ทีมงานใหญ่ หรือว่าบริษัทเกมดัง มีฉากคัทซีน หรืออะไรในเกมให้ ทำมากมาย และราคาหลักเกือบ 2000 ตอนวางขาย ใช่ไหมคะ อันที่จริงเนี่ย ก็ถูกอย่าง ที่ทุกคนคิดนั่นแหละค่ะ
แต่แอดมินเห็นหัวข้อนี้น่าสนใจ จึงหยิบนำมาขยาย ความว่าความจริงแล้ว มันมาจากไหนและ ใช้ยังไงกันแน่ แต่ก่อนที่เราจะไปดู ความน่าสนใจ แอดมินก็ต้องขอ ฝากให้ไปติดตาม เกมในตำนานภาคใหม่ Contra Operation Galuga กันด้วยนะคะ แล้วในวันนี้ แอดมินก็ต้อง ขอขอบคุณ เบทฟิก68 ที่สนับสนุนบทความ ของเราในวันนี้ด้วยค่ะ
เกม triple A คืออะไรกันแน่
ตามที่หลายคนเข้าใจคือเกม และกำลังพลในการสร้างเยอะเยอะเยอะ นำโดยทีมพัฒนาชื่อดังโดยบริษัทใหญ่อะไรประมาณนั้น ที่จริงแล้วคำว่าโป้เอเนี่ยหรือว่าตัวเองสามตัวเนี่ย มันเป็นชื่อเรียกสื่อเกม หรืออะไรก็ตามที่บอกไว้ก่อนหน้านี้ อย่างเป็นทางการ มันเป็นเหมือนคำที่ใช้ในการเรียก
แล้วก็เข้าใจกันโดยทั่วกันมากกว่าทีนี้แหละ ขึ้นอยู่กับมุมมองของคนนั้นด้วยว่า จะตัดสินใจให้เกมที่อยู่ตรงหน้านั้น คือเกมระดับ AAA หรือไม่ โดยที่จริงแล้วคำว่า AAA หรือเอสามตัวนั้น เป็นการใช้เรียกกันในหมู่ผู้บริหารที่ใช้ในการคุยเรื่องเงินกัน โดยหยิบยืมสิ่งที่เรียกว่า
ระดับความน่าเชื่อถือของสิ่งนั้นๆ ที่จะลงทุนโดยระดับก็มีตั้งแต่ AAA,AA,A,BBB,BB,B,CCC,CC,C และ D อันที่แบ่งง่าย แบบไม่ต้องปวดหัวง่ายก็คือ ระดับความเสี่ยงที่การลงทุนนั้น จะได้ผลกำไรหรือบรรลุผลเป้าหมาย ตามที่บริษัทกำหนดเอาไว้นั่นเอง
เอาให้ง่ายกว่าเดิมถ้าเปรียบเทียบกับวิดีโอเกม คือระดับความเสี่ยงว่าเกม ของคนที่ทำจะเจ๊ง หรือไม่นั่นเองค่ะ ยิ่งระดับสูงความเสี่ยงก็ยิ่งน้อย ประมาณว่าถ้าทำเกมขึ้นมา วางโปรเจคเนื้อเรื่อง แนวทางการเล่นทุกอย่างเสร็จสรรพหมดแล้ว บริษัทก็ประเมินว่า เกมนั้นมีความเสี่ยงที่จะเจ๊งอยู่ที่เท่าไหร่ ปรากฏว่าประเมินแล้วจากกระแสสังคม เทรนนิยมของเกมในปัจจุบัน งบในการลงทุนพัฒนา แล้วคาดว่าได้กำไร
ตามเป้า แน่นอนก็จะตีว่านี่นี่คือผลงานระดับ AAA นั่นเองค่ะ ซึ่งพวกเกรดเหล่านี้ จะใช้กันบริษัทซะส่วน ใหญ่ยังไม่ได้มีการนำมาใช้ภายนอกเท่าไหร่นัก หรือถ้าให้เปรียบเทียบกับวงการอื่น มันก็คือเครดิตเรตติ้งที่พบเจอได้ทั่วไปเลย ตัวอย่างเช่นพวกบัตรเครดิต ถ้าเราจ่ายเงินตรงตามเวลา ไม่ทำพิลึก เครดิตของเราก็จะดี ธนาคารก็จะให้เงินเยอะขึ้น โดยใช้เกณฑ์อะไรต่างๆ ตามที่ธนาคารกำหนดเอาไว้นั่นเองค่ะ